เที่ยวไปพร้อมกับทีมงานของสมาคมการท่องเที่ยวไทย (ATTA)

img_1527img_1548 img_1556

เมื่อวันที่ 24-26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ตัวแทนมากกว่า 200 คนที่อยู่รอบพื้นที่หัวหิน เพชรบุรี ชะอำ ฯลฯ ได้เดินทางท่องเที่ยวพร้อมด้วยสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว เพื่อรายงานเหตุการณ์ต่อไปนี้

การเดินทางในวันที่ 1

ทัศนศึกษาที่โครงการหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 (รัชกาลปัจจุบัน) —- ศูนย์บำบัดน้ำเสียแห่งชาติ ภายในพื้นที่รอบทะเลสาบขนาดใหญ่ ซึ่งยากที่จะจินตนาการได้ว่าทะเลสาบนั้นได้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติที่สะอาดบริสุทธิ์ เต็มไปด้วยนกน้ำ นกกระทุง นกเหยี่ยวที่กินปลาเป็นอาหาร และนกน้ำอื่นๆ ซึ่งอาศัยอย่างเสรีเป็นถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งเหมาะสำหรับให้สิ่งมีชีวิตดำรงชีวิตอยู่รอดได้อย่างมีความสุข จากการบำบัดน้ำเสียแบบหลายขั้นตอนให้เป็นน้ำเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมและการชลประทานของการปลูกพืช ทิวทัศน์และลมที่โชยมาจากพื้นผิวเหนือทะเลสาบสีเขียวซึ่งเป็นเป็นแหล่งของทรัพยากรน้ำอันพึงประสงค์ ทำให้นักท่องเที่ยวมีความรู้สึกว่าตนเองได้เข้าไปสู่ดินแดนมหัศจรรย์ที่น่าหลงใหล ซึ่งนับตั้งแต่ได้จัดตั้งขึ้นมานั้น ศูนย์ดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่าในหลวงทรงเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งกอปรด้วยพลังอัจฉริยภาพ ซึ่งสร้างวิสัยทัศน์และความสามารถที่เหนือธรรมดาให้แก่ประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่คนไทยแสดงความกตัญญูและความจงรักภักดีต่อพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันที่ 2

ตอนเช้า: มองไปรอบพื้นที่ชายแดนไทยที่อยู่ใกล้เมียนมาร์ ซึ่งยังคงมีความยากจนและขาดการพัฒนา ในภูมิภาคที่เป็นส่วนหนึ่งของอาเซียนมีคุณค่าที่มีศักยภาพในการบุกเบิกตลาดเพื่ออนาคต ผ่านการศึกษาของนักท่องเที่ยวระดับหัวหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตชนบท

หลังจากนั้น ทีมงานได้เยี่ยมชมวัดที่มีชื่อเสียงเพื่อสักการบูชา ซึ่งภายในมีพระพุทธรูปที่มีความสูงถึง 50 เมตร โดยพระพุทธรูปไทยซึ่งมีประวัติยาวนานนับร้อยปีองค์นี้ สะท้อนให้เห็นอย่างลึกซึ้งว่าคนไทยมีความรักต่อพระพุทธรูปที่มีประวัติอันยาวองค์นี้ ด้วยหัวใจอันเทิดทูนและเคารพที่เปี่ยมไปด้วยความศรัทธา ในทิวทัศน์ดังกล่าวนั้น พุทธานุภาพเป็นที่ยึดเหนี่ยวอันยิ่งใหญ่เกินความสามรรถของมนุษยชาติ

ตอนบ่าย

เที่ยวชมจุดชมวิวในนครเวนิสซึ่งเลียนแบบมาจากประเทศอิตาลี เรียกว่า [เวเนเซีย] ขึ้นสะพานชมภูมิทัศน์ของสวนในพื้นที่ประวัติศาสตร์ นั่งเรือกอนโดลา และเดินรอบๆ ประติมากรรมแห่งยุคฟื้นฟูศิลปะ ทำให้นักท่องเที่ยวมีความรู้สึกเหมือนกับว่าได้เดินทางไปต่างประเทศที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณ และตนได้มาถึงสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความฝัน ซึ่งเป็นเสน่ห์ใหม่ที่เติมให้แก่แหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น

วันที่ 3

ตอนเช้า ไปเที่ยวพระราชอุทยานเกษตรนิเวศน์ ซึ่งริเริ่มโดยการออกแบบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีผลไม้ ธัญพืช และพรรณไม้ทุกชนิด และสามารถเห็นการเก็บเกี่ยวได้ทุกที่ ในทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มอยู่เหนือฟาร์มวัวและการเดินเรือ ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนนิเวศวิทยาเพื่อให้มีประสบการณ์ได้ในเวลาเดียวกัน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นผืนดินที่แห้งแล้ง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนผลไม้และแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ ในการใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรแบบทันสมัย ก่อให้เกิดวิสัยทัศน์จากผลประโยชน์ของการเกษตรในอนาคต

ตอนบ่ายได้ไปชมโฮมสเตย์รีสอร์ท ที่มีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศแบบไทยที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานด้วยกิจกรรมต่างๆ ด้านการพักผ่อนและการเกษตร เช่น การเดินชมสวนผลไม้ การเพลิดเพลินบันเทิงใจกับผลไม้ต่างๆ เช่น เงาะ ทุเรียน และอื่นๆ ที่มีความสดใหม่ในฤดูกาล อากาศที่เงียบสงบและสดชื่นซึ่งล่องลอยอยู่เหนือแม่น้ำเพชรบุรี เป็นสถานที่สำหรับการผ่อนคลายได้อย่างดีเช่นเดียวกัน

การปิดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเชิงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยการบริการอาหารกลางวันโดย ATTA ซึ่งสร้างเสริมปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในช่วงที่เที่ยวชมทิวทัศน์ที่มีเอกลักษณ์แบบไทยๆ ในเวลาเดียวกัน โครงการต่างๆ ที่มีคุณค่าน่าจะได้รับการขึ้นบัญชีไว้ในตลาดการท่องเที่ยวเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อจะได้ตรงกับจุดมุ่งหมายของ TAT อย่างมีพลัง โดยการเน้นไปที่หัวข้อ [ท่องเที่ยววิถีไทย 2015] ATTA ในฐานะที่เป็นหัวเรือใหญ่ของสมาคมการท่องเที่ยว ซึ่งเสนอโอกาสและแผนในการสร้างโอกาสให้แก่การท่องเที่ยวในอนาคตของประเทศไทย  

img_1319 img_2553 img_2477 img_2211 img_2160 img_2112 img_2002 img_1811 img_1616 img_1606 img_1597 img_1578 img_1480 img_1463 img_1418 img_1404 img_1402 img_1395 img_1383

รายงานโดยดาวิน ลี